สัญญานฟื้นตัวปี 68 SCB EIC เผยก่อสร้างภาครัฐจ่อขยายตัว 3%

ภาพรวมการก่อสร้างปี 2567-2568: โอกาสและความท้าทายสำหรับอุตสาหกรรม

ในช่วงต้นปี 2567 การก่อสร้างภาครัฐเผชิญกับความล่าช้าจากการจัดทำงบประมาณ แต่หลังจากการประกาศใช้งบประมาณในเดือนพฤษภาคม อัตราการเบิกจ่ายเงินลงทุนก็เริ่มเร่งตัว ทำให้คาดการณ์ว่าการก่อสร้างภาครัฐจะฟื้นตัวได้ดีขึ้นในครึ่งหลังของปี หากงบประมาณประจำปี 2568 เสร็จสิ้นตามกำหนดภายในเดือนกันยายน จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของภาคก่อสร้างในปีหน้า

แนวโน้มการเติบโตในปี 2568

• การก่อสร้างภาครัฐ คาดว่าจะขยายตัวราว 3% YoY โดยมีการเปิดประมูลโครงการเมกะโปรเจกต์ด้านคมนาคม ซึ่งจะเป็นโอกาสสำหรับผู้รับเหมาก่อสร้างทั้งรายใหญ่และรายย่อยในการสร้างรายได้และปรับสภาพคล่องให้ดีขึ้น

• การก่อสร้างภาคเอกชน มีแนวโน้มขยายตัวเล็กน้อยเพียง 1% เนื่องจากแรงกดดันจากตลาดที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะในกลุ่มระดับราคาปานกลาง อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการเริ่มหันมาเปิดโครงการระดับราคาสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนก่อสร้างสูงขึ้นเช่นกัน

ความท้าทายและปัจจัยเสี่ยง

• ตลาดออฟฟิศและค้าปลีก อุปทานพื้นที่สำนักงานให้เช่ายังคงเพิ่มขึ้น แต่ต้องจับตาภาวะอุปทานล้นตลาด (Oversupply) ซึ่งอาจนำไปสู่การยกเลิกโครงการที่ไม่มีกำไร

• ข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม ผู้รับเหมาโครงการขนาดใหญ่ต้องคำนึงถึงเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการประมูลงานก่อสร้าง ทั้งจากภาครัฐและเอกชน

โครงสร้างอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย

ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในไทยแบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม ได้แก่ ผู้รับเหมาโครงการภาครัฐ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน, โครงการภาคเอกชน เช่น อาคารที่อยู่อาศัย และผู้รับเหมาที่ให้บริการเฉพาะด้าน เช่น ระบบท่อและไฟฟ้า ผู้รับเหมารายใหญ่เพียง 19 รายครองตลาดประมาณ 15% ขณะที่ผู้รับเหมารายกลางและเล็กถือครองส่วนแบ่งที่เหลือกว่า 85% ทำให้มีโอกาสกระจายรายได้ไปยังธุรกิจที่เกี่ยวข้องมากมาย เช่น การผลิตวัสดุก่อสร้างและการออกแบบตกแต่ง

สรุป

ปี 2568 จะเป็นปีที่มีโอกาสใหม่ๆ สำหรับภาคการก่อสร้างในไทย โดยเฉพาะจากโครงการภาครัฐที่คาดว่าจะขยายตัวจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ และเมกะโปรเจกต์ด้านคมนาคมที่เปิดโอกาสให้กับผู้รับเหมาทุกระดับ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการยังต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งในด้านต้นทุนที่สูงขึ้น และความเสี่ยงจากตลาดที่อาจมีอุปทานล้น